5/5 Prateep P. 1 year ago on Google
(Translated
by
Google)
Police
Museum
Paruskwan
Palace
is
a
very
beautiful
palace.
The
area
consists
of
two
palaces.
Suan
Chitralada
Palace
with
Parusakawan
Palace
in
the
reign
of
King
Rama
VI
restored
the
Chitralada
Palace
with
Prince
Chakrabongse
Phuwanat
Krom
Luang
Phitsanulok
Prachanat
Combined
into
a
single
area,
it
is
the
Parusakawan
Palace.
At
present,
you
can
walk
in
the
garden
of
the
Chitralada
Palace.
As
for
the
Paruskwan
Palace,
it
is
the
area
of
the
National
Intelligence
Agency.
Museum,
update
information
on
May
20,
2022.
The
museum
is
open
Tuesday-Friday
from
10.00-16.00
and
can
be
visited
for
free.
free
of
charge
There
are
palace
staff
to
show
you
and
describe
the
history.
If
you
come
as
a
group,
you
can
contact
in
advance.
Inside
the
palace
is
very
beautiful
The
maintenance
is
in
very
good
condition.
It
is
considered
a
very
beautiful
palace.
----------------------------------------------------
-
history
Paruksakawan
Palace
Construction
began
in
the
year
In
1903,
on
December
30,
1904,
the
cost
of
the
construction
of
the
wall
was
275
meters
long,
totaling
22,075
baht.
Later
on
April
19,
1904,
the
remaining
wall
construction
cost
was
61,173
baht,
but
not
including
the
cost.
roof
tile
Initially,
there
were
3
architects
helping
to
design
the
designs:
Mr.
Mario
Tamanho,
Mr.
Scotts.
and
Mr.
Baylorie,
but
2
fell
ill
during
the
construction.
Mr
Tamanho
was
ill
with
cholera
and
had
to
return
to
Europe.
Mr
Scotts
contracted
smallpox
and
died.
Only
Mr.
Baylorie
was
left
responsible
until
it
was
completed
in
1905.
There
was
a
new
royal
ceremony
on
April
5,
1906,
and
he
stayed
in
this
palace
for
the
rest
of
his
life.
Architectural
style
is
classic,
brick
and
mortar,
typical
of
Italian
villas,
brick
and
mortar,
painted
in
cream.
Originally,
the
palace
had
two
floors,
with
the
lower
floor
being
the
royal
hall
and
living
room,
living
room,
while
the
upper
floor
was
arranged
as
a
private
residence
area,
a
monk's
room.
Chaya,
the
reclining
room,
the
royal
dressing
room,
the
sanctuary
room,
and
the
scripture
room
Subsequently,
the
palace
was
added
to
3
floors,
with
the
upper
floor
being
classified
as
a
royal
bed
room.
The
name
of
Paruskwan
Palace
is
derived
from
the
name
of
Indra's
garden
in
the
Daowadung
heaven.
and
Suan
Nanthawan
Inside
the
Palace
of
Parusk,
there
is
another
palace.
is
the
Chitralada
Palace,
which
originally
belonged
to
King
Rama
VI
when
he
was
crowned
Crown
Prince.
Prince
Maha
Vajiravudh
Crown
Prince
When
King
Rama
VI
ascended
to
the
throne
moved
to
the
Dusit
Palace
and
was
graciously
pleased
to
Royal
Palace
of
Suan
Chitralada
Exchange
with
the
land
near
Wasukri
Pier
of
Somdej
Phra
Anuchathirat
Prince
Chakrabongse
Phuwanat
Krom
Luang
Phitsanulok
Prachanat
and
please
to
tear
down
the
wall
that
separates
it.
Combine
the
two
palaces
together.
As
for
the
wall
to
build
a
new
place,
he
has
decorated
the
Chakra
and
mace.
which
is
the
emblem
of
His
Majesty
the
King
Prince
Chakrabongse
Bhuwanat
on
the
doorway
around
the
wall
When
Her
Royal
Highness
Prince
Chakrabongse
Bhuwanat
came
to
the
throne
in
1920
B.E.
His
Majesty
King
Mongkut
Klao
Chao
Yu
Hua
He
exercised
the
royal
powers
under
the
law
to
suspend
the
will
of
Somdej
Phra
Anuchathirat.
Prince
Chakrabongse
Phuwanat
Krom
Luang
Phitsanulok
Prachanat
who
specified
that
all
assets
to
be
given
to
Princess
Chavalit
Opas
new
wife
with
a
royal
command
to
transfer
the
Paruskwan
Palace
back
to
the
King's
property
After
the
change
of
government
in
the
year
B.E.
1932
Paruskwan
Palace
It
was
the
office
of
the
Secretariat
of
the
National
Assembly
before
moving
to
the
Ananta
Samakhom
Throne
Hall
and
the
residence
of
Phraya
Phaholphonphayuhasena
during
his
term
as
Prime
Minister
and
after
his
retirement.
Until
his
death,
it
is
now
used
as
the
office
of
the
National
Intelligence
Agency,
the
Museum
of
the
Police
Department
and
the
former
office
of
the
Metropolitan
Police
Headquarters.
Incidentally,
people
often
misunderstand
the
difference
between
Parusk
Palace
and
Chitralada
Palace.
The
Parusk
Palace
is
a
palace
located
on
the
side
of
Ratchadamnoen
Nok
Road
intersecting
with
Phitsanulok
Road.
Adjacent
to
Chantharakasem
Palace
while
Chitralada
Palace
is
a
palace
located
on
Ratchadamnoen
Nok
Road
intersecting
with
Sri
Ayutthaya
Road.
In
addition,
Chitralada
Palace
It
was
also
the
venue
of
the
5th
Millionth
Overnight
Smart
Television
Game
Show.
Historical
data
based
on
wikipedia.
(Original)
พิพิธภัณฑ์ตำรวจ
วังปารุสกวัน
เป็นวังที่สวยงามมาก
พื้นที่ประกอบด้วยสองวัง
วังสวนจิตรลดา
กับวังปารุสกวัน
ในสมัย
รัชกาลที่
6
ได้คืนวังสวนจิตรลดากับ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
รวมเป็นพื้นที่เดียวเป็น
วังปารุสกวัน
ปัจจุบันสามารถเดินชมในสวนพระตำหนักสวนจิตรดลดา
ส่วนวังปารุสกวันเป็นพื้นที่สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ
พิพิธภัณฑ์
อัพเดท
ข้อมูลวันที่
20
พฤษภาคม
2565
พิพิธภัณฑ์เปิด
อังคาร-ศุกร์
เวลา
10.00-16.00
สามารถมาชมได้ฟรี
ไม่มีค่าใช้จ่าย
มีเจ้าหน้าที่วังพาชมและบรรยายความเป็นมาให้ดูถ้ามาเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อล่วงหน้าได้
ภายในวังสวยมาก
การดูแลรักษาสภาพดีมาก
ถือเป็นวังที่สวยมากวังหนึ่งครับ
---------------------------------------------------
ประวัติความเป็นมา
วังปารุกสกวัน
เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.
2446 โดยในวันที่
30
ธันวาคม
มีการจ่ายเงินค่าก่อสร้างกำแพงยาว
275
เมตร
รวมเป็นเงิน
22,075
บาท
ต่อมาวันที่ 19
เมษายน พ.ศ.
2447 จ่ายค่าก่อสร้างกำแพงส่วนที่เหลืออีกเป็นเงิน
61,173
บาท
แต่ยังไม่รวมค่ากระเบื้องหลังคา
แรกเริ่มมีสถาปนิก
3
คนช่วยกันออกแบบ
คือ
นายมารีโอ
ตามัญโญ นายสก็อตส์
และนายเบย์โรเลรี
แต่
2
คนป่วยระหว่างการก่อสร้าง
นายตามานโญป่วยเป็นอหิวาตกโรคและต้องเดินทางกลับยุโรป
ส่วนนายสก็อตส์ป่วยเป็นไข้ทรพิษและเสียชีวิต
เหลือแต่นายเบย์โรเลรี
รับผิดชอบ
จนแล้วเสร็จเมื่อ
พ.ศ.
2448 มีพิธีขึ้นพระตำหนักใหม่เมื่อวันที่
5
เมษายน
พ.ศ.
2449 และได้เสด็จประทับพระตำหนักนี้ตลอดพระชนมายุ
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นแบบคลาสสิก
ก่ออิฐถือปูน
ตามแบบวิลลาของอิตาลี ก่ออิฐถือปูน
ทาสีครีม
เดิมตัวพระตำหนักมี
2
ชั้น
โดยชั้นล่างเป็นท้องพระโรง และห้องรับแขก
ห้องพักผ่อน
ส่วนชั้นบนจัดเป็นบริเวณที่ประทับส่วนพระองค์
ห้องพระชายา
ห้องพระบรรทม
ห้องแต่งพระองค์
ห้องสรง
และห้องทรงพระอักษร
ต่อมามีการต่อเติมตัวพระตำหนักเพิ่มเป็น
3
ชั้น
โดยชั้นบนจัดเป็นห้องพระบรรทม
ชื่อวังปารุสกวันได้มาจากชื่อสวนของพระอินทร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มี
4
แห่งคือ
สวนมิสกวัน
สวนปารุสกวัน
สวนจิตรลดาวัน
และสวนนันทวัน
ภายในวังปารุสก์ยังมีตำหนักอีกองค์หนึ่ง
คือ ตำหนักสวนจิตรลดา ซึ่งแต่เดิมเป็นของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ
สยามมกุฎราชกุมาร
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จขึ้นครองราชย์
ทรงย้ายไปประทับที่พระราชวังดุสิต ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานตำหนักสวนจิตรลดา
แลกเปลี่ยนกับที่ดินบริเวณท่าวาสุกรี ของสมเด็จพระอนุชาธิราช
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
และโปรดฯ
ให้รื้อกำแพงที่คั่นกลางออก
รวมตำหนักทั้งสองเข้าด้วยกัน
ส่วนกำแพงสร้างที่ใหม่ทรงให้ประดับตราจักรและกระบอง
ซึ่งเป็นตราประจำพระองค์ของสมเด็จฯ
เจ้าฟ้าจักรพงษภูวนาถ
ไว้ที่ประตูกำแพงโดยรอบ
เมื่อสมเด็จฯ
เจ้าฟ้าจักรพงษ์
ภูวนาถเสด็จทิวงคต
เมื่อ พ.ศ.
2463 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงใช้พระราชอำนาจตามกฎหมายระงับพินัยกรรมของสมเด็จพระอนุชาธิราช
เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ
ที่ทรงระบุให้ยกทรัพย์สินทั้งหมดแก่หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส
ชายาพระองค์ใหม่
โดยมีพระบรมราชโองการให้โอนวังปารุสกวันกลับคืนเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ.
2475 วังปารุสกวัน
เป็นที่ทำการของสำนักงานเลขาธิการรัฐสภา ก่อนจะย้ายไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม และที่เป็นพำนักของ พระยาพหลพลพยุหเสนา ระหว่างเป็นนายกรัฐมนตรีและพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว
จนถึงแก่อสัญกรรม ปัจจุบันใช้เป็นที่ทำการของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์กรมตำรวจ และอดีตที่ทำการกองบัญชาการตำรวจนครบาล
อนึ่ง
มักมีผู้เข้าใจสับสนระหว่างตำหนักปารุสก์กับตำหนักสวนจิตรลดา
โดยที่ตำหนักปารุสก์
คือ
พระตำหนักที่อยู่ทางด้านถนนราชดำเนินนอกตัดกับถนนพิษณุโลก
อยู่ติดกับวังจันทรเกษม ในขณะที่
ตำหนักจิตรลดา
คือ
ตำหนักที่อยู่ทางด้านถนนราชดำเนินนอกตัดกับถนนศรีอยุธยานั่นเอง
นอกจากนี้
ตำหนักจิตรลดา
ยังเคยเป็นสถานที่แข่งขันรายการเกมโชว์ทางโทรทัศน์อัจฉริยะข้ามคืน ล้านที่
5 อีกด้วย
ข้อมูลประวัติอ้างอิงจาก
wikipedia
2 people found this review helpful 👍
