เหตุบังเอิญขับรถจะไปส่งสินค้าระยอง ออกจากบ้านสร้างก็วิ่งออกไปบางคล้า...แต่มีช่วงนึงวิ่งไปตามแม่น้ำบางปะกงถึงโค้งแม่น้ำก็เห็นมีสถูปเจดียม์มีป้ายบอกว่า. ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช...จึงขับรถแวะไปกราบพระองค์ท่าน นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ..เป็นล้นพ้นเสมอ.. จึงแนะนำนะครับ

รำลึกถึงคุณงามความดี ต่อชาติไทย ของพระองค์ท่าน

กราบเจ้าตาก

แหล่งประวัติศาสตร์ท้องถิ่น 1 ในเส้นทางพระเจ้าตากสินมหาราช

ดีที่สุดในบางคล้าละ

One-must visit the river. After coffee and this monument is special.

Beautiful scenery and interesting history , some good places to eat , easy free parking. Only downside is you need someone who speaks Thai as there is no translation to historical boards just a minor issue.

Monument of King Taksin. The location is where the tributary merges Bangpakong river. Very nice sunset. 🌇

🙏🏼🙏🏼🙏🏼

Attractive location but not have toilet

Nice place

บรรยากาศดีมาก เป็นสถานที่ในเชิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อยู่ตรงข้ามกับวัดปากน้ำโจ้ ขับรถอัอมมาอีกนิดหน่อยตาม GPS เลย ไปมาวันที่15/10/66

เตรียมอุปกรณ์กันแดดไปด้วยน๊ เป็นจุดที่น่ามาเชคอิน กราบไหว้พระเจ้าตากสิน รอบๆมีของขายไม่มาก เป็นพวกดอกไม้ ของบูชา และก็นมน้องหมู น้อนน่ารักมากๆเลยคะ /มองไปฝั่งตรงข้ามเป็นวัดปากน้ำโจ้โล้ หรือวัดสีทองขับรถต่ออีก1กิโลถึงเลยจ้(660728)

อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำโจ้โล้ (คลองท่าลาด) ตำบลบางคล้า อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอบางคล้า เป็นสถานที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาถูกพม่าล้อมเมืองไว้ก่อนที่จะเสียกรุงครั้งที่ 2 ชาวบ้านเชื่อว่า สถานที่แห่งนี้เกี่ยวเนื่องกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพระยาวชิรปราการ ได้ตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยาก่อนกรุงแตกในปี พ.ศ. 2310 เพื่อไปรวบรวมไพร่พลกอบกู้เอกราช ณ เมืองจันทบุรี จึงได้สร้างพระสถูปเจดียไว้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชัยชนะของพระองค์ในบริเวณนี้ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 แห่ง ของอำเภอบางคล้า ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่พระองค์ยาตราทัพผ่าน ส่วนอนุสรณ์สถานอีก 2 แห่ง คือ วิหารวัดแจ้ง และวิหารวัดโพธิ์ พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขากล่าวว่า หลังจากที่พระยาวชิรปราการตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยาทางตะวันออก ในวันจันทร์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือนยี่ ได้เดินทัพเข้าในป่า และหยุดประทับที่หนองน้ำหุงอาหาร แม่ทัพพม่าได้ทราบข่าวว่า กองทัพซึ่งยกทัพตามกองทัพของพระยาวชิรปราการพ่ายแพ้หลายครั้ง จึงเกณฑ์ทัพเรือให้ยกหมุนมาเพิ่มเติม และให้กองทัพบกยกลงมาตั้ง ณ ปากน้ำใจไล้เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อรวมกำลังกับกองทัพเรือ และในวันอังคาร ขึ้น 14 ค่ำ เดือนยี่ กองทัพพม่าได้ยกจากปากน้ำใจ้ไล้ติดตามกองทัพของไทย พระยาวชิรปราการรู้ตัวว่า กองทัพพม่ายกทัพตามมา จึงนำพลทหารร้อยหนึ่งให้ขุดสนามเพลาะเป็นกำบัง คอยชุ่มยิงกองกำลังทหารพม่าที่ยกตามมาล้มตายเป็นจำนวนมาก พม่าก็แตกพ่ายกระจัดกระจายกันออกไป ส่วนคำบอกเล่าของชาวบ้าน มีรายละเอียดเพิ่มเติมว่า หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้อิสรภาพจากพม่าได้สำเร็จ และปราบดาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 หรือพระเจ้ากรุงธนบุรี ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสกูปเจดีย์ขึ้นบริเวณปากน้ำใจ้ เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ แต่พระสถูปองค์เดิมที่สร้างขึ้นได้ถูกกระแสน้ำไหลกัดเซาะพังหลายลงแม่น้ำตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 ต่อมาได้รับงบประมาณจากกรมโยธาธิการ กระทรวงมหาดไทย และกองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมิสซังโรมันคาทอลิกจันทบุรี อนุญาตให้ใช้ที่ดินสร้าง จำนวน 2 ไร่ 2 งาน 38.4 ตารางว่า สร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้นมาใหม่บริเวณเดิมตามรูปแบบของกองสถาปัตยกรรมกรมศิลปากร ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆัง มีซุ้มทั้ง 4 ด้าน โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2539 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 36,565,338 บาท (สามสิบหกล้านห้าแสนหกหมื่นสองพันสามร้อยสามสิบแปดบาทถ้วน) บริเวณโดยรอบสถูปพระเจ้าตากสินมหาราชเป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่นและสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจ ชมทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยา และสักการะอนุสรณ์สถานแห่งนี้ได้

เพิ่งเคยไปครั้งแรก..ไปตอนเย็นซื้ออาหารไป..เลยแวะนั่งทาน..บรรยากาศสงบร่มรื่น..อยู่ติดแม่นำ้..และได้ไปกราบสักการะพระองค์ท่าน..ได้อ่านประวัติ..หัวใจเต้นแรง..เลือดสูบฉีดแรง..รู้สึกรักหวงแหนแผ่นดินไทย..ซาบซึ้งในสิ่งที่พระองค์ท่านทำไว้ให้ลูกหลาน